นายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะของญี่ปุ่นประกาศเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะให้เงินกู้ยืมแก่เมียนมาร์อีกครั้ง ซึ่งเป็นการกลับมาให้เงินกู้ยืมครั้งแรกในรอบ 25 ปี วัตถุประสงค์ของรัฐบาลญี่่ปุ่นคือเพื่อช่วยกระตุ้นการปฏิรูปประเทศให้เป็นประชาธิปไตย

ในการพบปะกับประธานาธิบดีเต็ง เส่งของเมียนมาร์ที่ญี่ปุ่นเมื่อวันเสาร์ นายกรัฐมนตรีโนดะกล่าวชมความตั้งใจจริงของเมียนมาร์ที่จะปฏิรูปประเทศหลังจากกองทัพมอบอำนาจให้แก่รัฐบาลพลเรือนเมื่อปีที่แล้ว

เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวด้วยว่า ญี่ปุ่นจะยกหนี้จำนวน 303.5 พันล้านเยนที่เมียนมาร์ติดค้างแก่ญี่ปุ่นให้โดยจะแบ่งเป็นสองระยะ โดยระยะแรกญี่ปุ่นจะยกเลิกหนี้จำนวน 127.4 พันล้านเยนก่อน อีก 176.1 พันล้านเยนรัฐบาลญี่ปุ่นจะตัดสินใจหลังจากสังเกตการณ์ความพยายามของเมียนมาร์ในการปฏิรูปประเทศให้เป็นประชาธิปไตยเป็นเวลาหนึ่งปี

การที่ญี่ปุ่นกลับมาให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่เมียนมาร์อีกครั้งนี้เน้นที่การพัฒนาสาธารณูปโภคภายในเมียนมาร์  ญี่ปุ่นให้ความช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาด้วยการให้เงินกู้ยืมระยะยาวและมีดอกเบี้ยต่ำในฐานะการให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการ โดยปกติแล้วเงินกู้ยืมเหล่านี้จะใช้ในการพัฒนาสาธารณูปโภคโครงการขนาดใหญ่ เช่น การพัฒนาถนน ท่าเรือและโรงงานไฟฟ้า

นายกรัฐมนตรีโนดะกล่าวกับประธานาธิบดีเต็ง เส่งว่าญี่ปุ่นจะให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่เมียนมาร์ในสามด้านคือ การพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเมียนมาร์ ซึ่งรวมถึงชนกลุ่มน้อย  การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการพัฒนาสาธารณูปโภคที่จะทำให้เศรษฐกิจเมียนมาร์เติบโตขึ้น

เครดิตข่าว  http://www.yomiuri.co.jp/dy/national/T120422002427.htm

เครดิตภาพ http://www.dvb.no