การเจรจาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership: TPP) กำลังดำเนินการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสมาชิกให้แล้วเสร็จภายในปลายปี 2013 นี้ และถ้าข้อตกลงทางการค้าภายใต้กรอบ TPP แล้วเสร็จ จะส่งผลให้ TPP กลายเป็นกลุ่มการค้าขนาดใหญ่ซึ่งมีขนาดราวๆ 38% ของผลิตภันณ์มวลรวมภายในประเทศของทั้งโลก 

นายกรัฐมนตรีอาเบะได้ประกาศว่าจะเข้าร่วมการเจรจา TPP อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2013 ที่ผ่านมา ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวกระตุ้นให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ TPP อย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ญี่ปุ่นเพิ่งเข้าร่วมการเจรจาอย่างเป็นทางการในการประชุมรอบสุดท้ายโดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันกติกาและทิศทางของ TPP ให้ปกป้องผลประโยชน์แห่งชาติของญี่ปุ่น โดยในการเจรจา TPP ครั้งถัดไปที่จะจัดขึ้นที่มาเลเซียในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2013 ญี่ปุ่นจะแสดงบทบาทในการกำหนดกติกาการค้าและการลงทุนที่ปกป้องผลประโยชน์แห่งชาติอย่างดีที่สุด ด้วยการพยายามคงมาตรการทางภาษีของสินค้าเกษตร ได้แก่ ข้าว ข้าวสาลี เนื้อวัว เนื้อหมู รวมถึงสินค้าที่สำคัญอื่นๆ 

ปัจจุบัน ญี่ปุ่นกำลังก้าวสู่การบูรณาการทางเศรษฐกิจที่มขอบข่ายกว้างกว่าเดิม ทั้งการเจรจา FTAs ในกลุ่ม TPP, การเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีแบบไตรภาคีระหว่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้และจีน รวมถึงเขตการค้าเสรีเอเชียตะวันออก (ASEAN+3) และหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภายใต้กรอบ ASEAN +6 

นอกจากนี้ ยังมีหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคที่มีการซ้อนทับกันระหว่างข้อตกลงทางการค้าที่มีอาเซียนเป็นศูนย์กลาง (RCEP) กับ TPP ทั้งนี้การเจรจา RCEP ที่เป็นการเจรจาภายใต้กรอบ ASEAN+6 นี้มีเป้าหมายที่จะจัดทำข้อตกลงให้แล้วเสร็จในปลายปี 2015 กล่าวได้ว่า RCEP และ TPP ต่างก็เป็นการสร้างเขตการค้าเสรีในเอเชียแปซิฟิกซึ่งประเทศสมาชิกของ APEC ต้องการให้เกิดขึ้นในปี 2020 นั่นเอง

-----------------------------

This news was published on June 28, 2013.

Source: http://www.nippon.com/en/features/h00030/