รัฐบาลญี่ปุ่นจะช่วยเหลือชนกลุ่มน้อยในเมียนมาร์มูลค่า 1 พันล้านเยน
แหล่งข่าวกล่าวว่ารัฐบาลญี่ปุ่นประสงค์จะขยายการให้ความช่วยเหลือแก่ชนกลุ่มน้อยในเมียนมาร์เป็นมูลค่าราว 1 พันล้านเยนในรูปของการให้ความช่วยเหลือด้านอาหารและช่วยเหลือผ่านข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR คาดว่านายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะของญี่ปุ่นจะประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการในวันที่ 21 เมษายนเมื่อพบปะกับประธานาธิบดีเต็ง เส่งของเมียนมาร์ที่กรุงโตเกียว
การให้ความช่วยเหลือครั้งนี้จะนับเป็นการให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกที่รัฐบาลญี่ปุ่นมีต่อชนกลุ่มน้อยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รัฐบาลญี่ปุ่นมีเจตนาจะให้ความช่วยเหลือการสนับสนุนประชาธิปไตยในเมียนมาร์ทางอ้อมด้วยการปรับปรุงมาตรฐานการใช้ชีวิตของชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ยากจน
รัฐบาลมีแผนจะส่งข้าวและถั่วมูลค่าราว 800 ล้านเยนให้แก่ชนกลุ่มน้อย 328,000 คนโดยร่วมมือกับโครงการอาหารโลก และจะเสนอเงินช่วยเหลือ 200 ล้านเยนแก่ UNHCR หน่วยงานขององค์การสหประชาชาติที่ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัย
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา รัฐบาลเมียนมาร์กับสหภาพแห่งชาติกระเหรี่ยง หรือ KNU บรรลุข้อตกลงพื้นฐานร่วมกันในการหยุดยิง ซึ่งเป็นการยุติการต่อสู้ที่ยืดเยื้อมานานถึง 60 ปี แต่ยังมีกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ที่ต่อสู้กับรัฐบาลเป็นเหตุให้ประชาชนเมียนมาร์จำนวนมากต้องพลัดถิ่น
คาดว่าความปรองดองระหว่างรัฐบาลเมียนมาร์กับชนกลุ่มน้อยจะส่งผลอย่างมากต่อนโยบายปฏิรูปและการสร้างความเป็นประชาธิปไตยในเมียนมาร์เนื่องจากถ้าสถานการณ์ภายในประเทศมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น ประชาชนในประเทศก็น่าจะให้การสนับสนุนรัฐบาลของประธานาธิบดีเต็ง เส่งมากขึ้น
นอกจากการให้ความช่วยเหลือด้านอาหารและผู้อพยพ รัฐบาลญี่ปุ่นยังพิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านการฝึกหัดอาชีพในพื้นที่ที่ชนกลุ่มน้อยอยู่อาศัย และจะใช้ประโยชน์จากแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ เช่น แก๊สธรรมชาติ
เครดิตข่าว http://www.yomiuri.co.jp/dy/national/T120407002824.htm
เครดิตภาพ http://images.cdn.fotopedia.com/picasaweb-5270122089564142146-hd.jpg
