ตัวแทนของญี่ปุ่นที่เข้าร่วมการประชุมองค์การสหประชาชาติเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนยืนยันว่าญี่ปุ่นยังคงไม่เห็นด้วยกับการยืดอายุพิธีสารเกียวโตปี 1997  ญี่ปุ่นต้องการกรอบการทำงานใหม่ที่รวมผู้ปล่อยแก๊สเรือนกระจกรายใหญ่ทุกรายไว้ในข้อตกลง

ในการประชุมกรอบการทำงานเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศครั้งที่ 17 ขององค์การสหประชาชาติหรือที่เรียกกันว่า COP17 ซึ่งกำลังดำเนินอยู่ที่เมืองเดอร์แบน อาฟริกาใต้ บรรดาผู้เข้าหารือยังไม่สามารถตกลงกันได้

ประเทศกำลังพัฒนาต้องการให้ยืดอายุพิธีสารเกียวโตซึ่งจะหมดอายุปลายปีหน้าออกไป โดยพิธีสารเกียวโตกำหนดให้ประเทศที่พัฒนาแล้วลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจก  ส่วนประเทศพัฒนาแล้วก็ต้องการให้สร้างกรอบการทำงานใหม่ที่ครอบคลุมประเทศจีนและผู้ปล่อยแก๊สเรือนกระจกรายใหญ่อื่นๆ ไว้ด้วย

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มาซาฮิโกะ โฮริเอะ ทูตญี่ปุ่นด้านสิ่งแวดล้อมโลกแถลงข่าวเกี่ยวกับการเจรจาเรื่องนี้เป็นครั้งแรก เขากล่าวว่ามีเพียง 26% ของผู้ปล่อยแก๊สเรือนกระจกทั้งหมดเท่านั้นที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงในพิธีสารเกียวโต เขาเรียกร้องให้มีกรอบการทำงานที่ยุติธรรมกว่านี้และมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ ซึ่งรวมผู้ปล่อยแก๊สเรือนกระจกรายใหญ่ทุกราย

ในขณะเดียวกัน โฮริเอะกล่าวว่าญี่ปุ่นจะเสนอความช่วยเหลือด้านการเงินและด้านเทคนิคแก่ประเทศกำลังพัฒนาหลังพิธีสารเกียวโตสิ้นสุด  

ผู้สื่อข่าวถามว่าญี่ปุ่นจะลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกอย่างไรหลังเกิดอุบัติเหตุนิวเคลียร์ในเดือนมีนาคม  โฮริเอะกล่าวว่าในขณะที่รัฐบาลทบทวนนโยบายพลังงานในอนาคตของญี่ปุ่นนั้น รัฐบาลไม่ได้เปลี่ยนแปลงเป้าหมายระยะกลางในการลดแก๊สเรือนกระจกลง 25% จากระดับของปี 1990

ที่มา  http://www3.nhk.or.jp/daily/english/20111130_23.html

เครดิตภาพ  http://waronterrorthegame.com/imgs/cards/E-Kyoto-Protocol.jpg