การได้รับการขึ้นทะเบียบเป็นมรดกโลกของภูเขาไฟฟูจิประกอบกับการอ่อนค่าของเงินเยน ส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง แม้ว่าจะเผชิญกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ลดจำนวนลงซึ่งเชื่อว่าเป็นผลมาจากบรรยากาศความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างสองประเทศ โดยจะเห็นได้จากในช่วงห้าเดือนแรกของปี 2013 จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงกว่า 28% ในทางตรงกันข้ามจำนวนนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ ไต้หวัน และฮ่องกงกลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

ทั้งนี้กระทรวงการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นได้หันมาให้ความสำคัญกับการกระตุ้นการท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้นและชี้ว่า ญี่ปุ่นต้องให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ทางการท่องเที่ยวจากภูมิภาคนี้ เนื่องจากเป็นผู้นำตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และคาดว่าจะทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพ

โดยจากจำนวนนักท่องเที่ยวในปีที่ผ่านมาของหกประเทศในภูมิภาค พบว่ามีอัตราการเดินทางมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นกว่า 36% โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก จากเดิมประมาณ 118,500 คน เพิ่มขึ้นเป็น 181,300 คน เมื่อเทียบกับปีก่อน และในเดือนพฤษภาคมเพียงเดือนเดียว มีนักท่องเที่ยวชาวไทย เพิ่มขึ้นเป็น 40,300 คน จากเดิม 24,000 คน

ทั้งนี้ญี่ปุ่นยังงต้องการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและอินโดนีเซีย แต่สมาคมฮาลาลของญี่ปุ่นให้ข้อมูลว่า ข้อกังวลของชาวมุสลิมในการท่องเที่ยวคือ การขาดร้านอาหารฮาลาล การมีธรรมเนียมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลดอกซากุระ และขาดสถานที่ในการละหมาดสำหรับชาวมุสลิม ซึ่งทางกระทรวงการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นต้องพัฒนาการให้บริการและการต้อนรับที่ดียิ่งขึ้นแก่ชาวมุสลิม และการให้ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวเพิ่มเติมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวมุสลิม

--------------------------

Writer: Joelle Metcalfe

This news was published on June 26, 2013. 

Source: http://blogs.wsj.com/japanrealtime/2013/06/26/japan-tourism-looks-to-southeast-asia/

Source of picture: http://www.nippon.com/en/features/h00031/