จีน เงาหรือคบไฟสำหรับเอเชีย
การแผ่ขยายอิทธิพลทาางเศรษฐกิจและทางทหารของจีนส่งผลให้เป็นที่จับตามองวาจะเป็นภัยคุกคามหรือเป็นการขัดขวางในชุมชนระหว่างประเทศ โดยเฉพาอดย่างยิ่งประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียต่างหวาดกลัวการขยายอิทธิพลหรือขยายความชอบธรรมของจีนซึ่งมีลักษณะเป็นประเทศมหาอำนาจ
ซึ่งถ้าเราสามารถมองจีนว่าไม่ใช่ภัยคุกคามแต่มองในลักษณะของการป้องกันเพื่อความมั่นคงของจีนเอง กลับพบว่าเพื่อนบ้านของจีนหรือประเทศที่เป็นคู่พิพาทด้านเอขแดนต่างแสวงหาแนวทางที่สันติในการแก้ไขข้อพิพาทดังกล่าว ทั้งยังระมัดระวังการโต้ตอบโดยใช้มาตรการทางทหาร ทั้งยังใช้การตอบโต้ภายใต้กรอบความมั่นคงในระดับภูมิภาคที่ญี่ปุ่นสามารถมีบทบาทนำในแนวทางดังกล่าว
หากเรามองว่าจีนพยายามท้าทายอำนาจและเปลี่ยนแปลงระเบียบโลกที่ดำรงอยู่ พบว่าตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองไม่เพียงแต่ประเทศผู้นำในโลกที่สามเท่านั้นยังมีผู้ก่อกบฎต่อต้านระบบเศรษฐกิจการเมืองแบบตะวันตกแต่กลับเป็นการนำชัยชนะมาสู่แนวทางสังคมนิยมที่นำโดยสหภาพโซเวียต
ถ้าปักกิ่งพยายามชี้นำทางการฑูตทั้งหมด เราสามารถอ้างได้ว่าจีนไม่เพียงแต่เป็นผู้ท้าทายระเบียบโลกเท่านั้นหากแต่ยังมีส่วนร่วมในระเบียบดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการตระหนักในความรับผิดชอบที่จะปกป้องระบบระหว่างประเทศด้วย ทั้งยังต้องถูกทดสอบสภาปัตยกรรมระบบระหว่างประเทศดังกล่าวในเอเชียตะวันออก
และเพื่อเป็นการลดความกังวลของประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียจีนควรสังเกตธรรมเนียมระบบระหว่างประเทศในเอเชียและโลกอย่างเคร่งครัดทั้งการค้า สิ่งแวดล้อม การป้องกันภัยพิบัติ การป้องกันโรคติดต่อ สิทธิมนุษยชน สวัสดิการ รวมถึงความมั่นคงทางอาหาร เพื่อให้แนวคิดเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยเกิดขึ้นได้จริงในอารยธรรมและวัฒนธรรมทางการเมืองของจีน
ทั้งนี้สิ่งหนึ่งสำคัญซึ่งต้องสร้างขึ้นกับประเทศในเอเชียก็คือความรับผิดชอบต่อประเทศอาเซียน เนื่องจากการเติบโตอย่างรวดเร็วทางเศรษฐกิจของอาเซียน การเปลี่ยนแปลงทางประชากรอย่างรวดเร็ว ปัญหาสภาวะแวดล้อม การเป็นแหล่งอาหารและพลังงานของโลกซึ่งประเทศในเอเชียต่างมีส่วนรับผิดชอบร่วมกันและจีนควรต้องเข้ามามีส่วนร่วมในระบบระหว่างประเทศดังกล่าวด้วย และนี่ก็เป็นคำถามจากประเทศในเอเชียว่าถ้าหากจีนจะขึ้นมาเป็นผู้นำของเอเชียแล้วจีนมีวิสัยทัศน์ต่อส่วนอื่นๆของโลกว่าอะไร เราจะมีวิสัยทัศน์ต่ออนาคตและมีความร่วมมืออย่างไรเพื่อรองรับวิสัยทัศน์ดังกล่าว
------------------
Writer: Ogoura Kazuo
Originally written in English on December 6, 2013.
