กลุ่มธุรกิจญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยกับการจ้างผู้เกษียณอายุกลับเข้าทำงานหลังอายุ 60
กลุ่มธุรกิจในญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงต่อร่างกฏหมายที่จะปรับแก้กฏหมายให้บริษัทต่างๆ จ้างผู้เกษียณอายุกลับเข้าทำงานจนถึงอายุ 65 ปีถ้าพนักงานมีความประสงค์จะทำงานต่อไป โดยกลุ่มบริษัทให้เหตุผลว่าแผนการดังกล่าวอาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานในที่ทำงานลดลงและทำให้ค่าใช้จ่ายด้านค่าแรงเพิ่มสูงขึ้น
รัฐบาลหวังจะให้กฏหมายนี้มีผลบังคับใช้ภายในปีงบประมาณ 2013 วัตถุประสงค์หลักคือเพื่อรักษาระบบเงินบำนาญของประเทศให้คงอยู่ต่อไปด้วยการให้พนักงานทำงานเป็นเวลานานขึ้น โดยรัฐบาลจะตัดข้อกำหนดเดิมที่ระบุว่าบริษัทสามารถตั้งเงื่อนไขในการเลือกพนักงานที่เกษียณแล้วกลับเข้าทำงานใหม่ได้โดยมีพื้นฐานอยู่บนความเห็นพ้องต้องกันระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง เงื่อนไขดังกล่าวได้แก่ สุขภาพ ความสามารถ และความกระตือรือร้นในการทำงาน
ร่างกฏหมายนี้ผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้วเมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมาและคณะรัฐมนตรีได้ยื่นต่อสภาไดเอ็ทแล้ว เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของร่างกฏหมายนี้คือรัฐบาลมีแผนจะเลื่อนอายุผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินบำนาญให้สูงขึ้นทีละน้อย ปัจจุบันผู้ที่เกษียณจากบริษัทจะเริ่มได้รับเงินบำนาญเมื่ออายุครบ 60 ปี แต่รัฐบาลมีแผนจะปรับเลื่อนอายุผู้รับเงินบำนาญทีละน้อยระหว่างปีงบประมาณ 2013-2025 ซึ่งในทีสุดผู้เกษียณจะเริ่มได้รับเงินบำนาญเมื่ออายุครบ 65 ปี
ปัจจุบันเกิดความวิตกกังวลในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ว่าถ้ากฏหมายบังคับให้จ้างงานพนักงานที่เกษียณแล้ว อาจทำให้พนักงานบางส่วนตายใจว่าถึงแม้พวกเขาจะทำงานขยันขันแข็งหรือไม่บริษัทก็ต้องจ้างงานพวกเขาต่อไปซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของบริษัท นอกจากนั้นยังเป็นการลดโอกาสการทำงานของพนักงานอายุน้อยอีกด้วย
จากสถานการณ์เงินเยนแข็งค่าในปัจจุบันประกอบกับปัญหาเศรษฐกิจในต่างประเทศทำให้ภาคธุรกิจมองว่าการปรับแก้กฏหมายลักษณะนี้ไม่ใช่สิ่งจำเป็น ฮิโรมาสะ โยเนคุระ ประธานเคดันเร็นกล่าวว่าภาคธุรกิจไม่ต้องการมาตรการใดๆ ที่จะทำให้พวกเขาต้องมีภาระเพิ่มขึ้น
เครดิตข่าว http://www.yomiuri.co.jp/dy/business/T120319004393.htm
เครดิตภาพ http://www.chem-t.com/link/interview/html/20050626-yonekura-2.jpg
