NEWS ニュース

การขึ้นค่าแรงในไทยส่งผลกระทบ บริษัทญี่ปุ่นพิจารณาย้ายสายการผลิต

1,252 views

การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในประเทศไทยซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมาทำให้บริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทยประสบปัญหา เนื่องจากบริษัทญี่ปุ่นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทผลิตรถยนต์มีฐานการผลิตอยู่ในประเทศไทย อาจจำเป็นต้องพิจารณาย้่ายสายการผลิตไปยังประเทศอื่น

ปัจจุบัน ค่าแรงขั้นต่ำในประเทศไทยพิจารณาแตกต่างกันไปในแต่ละจังหวัด แต่ในกรุงเทพฯ ค่าแรงขั้นต่ำปรับขึ้นถึง 40% จากวันละ 215 บาทเป็นวันละ 300 บาท และรัฐบาลไทยมีแผนการจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศเป็นวันละ 300 บาทในเดือนเมษายนปีหน้า

ปลายเดือนมีนาคม นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรกล่าวว่าจำเป็นต้องปรับขึ้นค่าแรงเนื่องจากค่าครองชีพในปัจจุบันเพิ่มสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องพยายามปรับปรุงมาตรฐานความเป็นอยู่ของประชาชน แต่มีบริษัทหลายบริษัทแสดงความไม่เห็นด้วย เช่นบริษัทสหพัฒนพิบูลย์ ผู้ผลิตสินค้าภายในครัวเรือนและอาหารรายใหญ่ของประเทศกล่าวว่าบริษัทกำลังพิจารณาย้ายโรงงานผลิตบะหมี่่สำเร็จรูปไปยังเมียนมาร์ ซึ่งค่าแรงที่ย่างกุ้งอยู่ที่ราวหนึ่งในหกของค่าแรงของกรุงเทพฯ

บริษัทญี่ปุ่นบางแห่งที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยก็แสดงความกังวลกับเรื่องนี้เช่นกัน เนื่องจากถึงแม้นักเศรษฐศาสตร์จะกล่าวว่าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อบริษัทขนาดใหญ่เช่น โตโยต้าและฮอนด้า เพราะบริษัทขนาดใหญ่มักให้ค่าแรงแก่พนักงานในระดับสูงอยู่แล้ว แต่บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กที่ส่งสินค้า เช่น อะไหล่รถยนต์ให้แก่บริษัทขนาดใหญ่ มักให้ค่าแรงพนักงานน้อยกว่า

นอกจากนั้น การปรับขึ้นค่าแรงยังจะส่งกระทบอย่างรุนแรงต่อบริษัทอื่นๆ ของญี่ปุ่น เช่น โรงงานทอผ้า เนื่องจากบริษัทต้องจ้างพนักงานจำนวนมาก  จากการสำรวจขององค์กรการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นพบว่าโดยเฉลี่ยแล้ว การปรับขึ้นค่าแรงครั้งนี้คิดเป็น 26% และ 9% ของบริษัทที่ทำการสำรวจกล่าวว่าพวกเขากำลังพิจารณาย้ายสายการผลิตบางส่วนไปยังประเทศใกล้เคียง

เครดิตข่าว  http://www.yomiuri.co.jp/dy/business/T120407002581.htm

เครดิตภาพ http://asmodehn.fr/~alex/Blog/images/JPToyota06.png

 

Login